เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๑๙ เม.ย. ๒๕๔๖

 

เทศน์เช้า วันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๔๖
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดสันติธรรมาราม ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

เวลาวันหนึ่ง ๒๔ ชั่วโมง ทุกคนเกิดมาแล้วอยู่ในกฎของ ๒๔ ชั่วโมงเท่ากัน แต่เป้าหมายชีวิตคนจะเลือกเลือกต่างกันนะ คนเราเลือกเป้าหมายชีวิต ในชีวิต ๒๔ ชั่วโมงแล้วความสุขความทุกข์ก็ต่างกัน ความสุข-ความทุกข์

ความสุขความทุกข์ของคนมันอยู่ที่อำนาจวาสนา เด็กๆ เวลาเล่นสนุกขึ้นมา มันจะแปลกใจว่าผู้ใหญ่ทำไมไม่เล่นสนุกเหมือนมัน แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้สนุกเหมือนมันเพราะต้องการเอาความจริงของชีวิตไง การดำรงชีวิตนี้ต้องพยายามมีสัมมาอาชีวะ การประกอบอาชีพชอบ เพื่อความเป็นอยู่ของโลกเขา เห็นไหม นั่นน่ะเป้าหมาย ถ้าเป้าหมายอย่างนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง

แต่เป้าหมายของผู้ที่ประพฤติปฏิบัติ เป้าหมายของคนที่จะพ้นออกจากทุกข์ได้ มันต้องมีความเชื่อ ความเชื่อความศรัทธา ใจนี่ วุฒิภาวะของใจ ใจต่างชั้นต่างภาวะกัน คนเราจะออกประพฤติปฏิบัติ มันแสนจะทุกข์แสนจะยากนะ แสนทุกข์แสนยากเพราะอะไร?

เพราะต้องฝืนกระแสโลก โลกเขาจะบอกเลยว่าไม่สู้สังคม ความสังคม ความเผชิญกับโลกแล้วมันจะเป็นประโยชน์กับตัวเองมากกว่า เพราะโลก นั่นน่ะ ๒๔ ชั่วโมงเหมือนกัน แล้ว ๒๔ ชั่วโมงก็ทำงานนะ ถ้าเพลินในงาน งานนั้นประกอบสัมมาอาชีวะสมความปรารถนา จะวันหนึ่งๆ หมดเวลาไปมากๆ เลย เวลาจะรวดเร็วมาก ทำให้เวลานี่ผ่านไปๆ มันก็เพลินไปอยู่อย่างนั้น

แต่คนเรามาประพฤติปฏิบัติก็เหมือนกัน ถ้ามาประพฤติปฏิบัติ ถ้าทำใจไม่ลงนะ ๒๔ ชั่วโมงนี่แสนยาวไกล แต่ถ้าประพฤติปฏิบัติ กำลังต่อสู้กับกิเลสอยู่ ๒๔ ชั่วโมงนี่แสนแป๊บเดียวนะ วันเวลาทำไมมันรวดเร็วขนาดนั้น กำลังต่อสู้กับกิเลสนี่มันเพลินไปกับงานไง

ความเพลินไปกับงาน งานเพลินไปเหมือนกัน ฝ่ายหนึ่งเพลินไปทางโลก ฝ่ายหนึ่งเพลินไปทางธรรม ถ้าเพลินไปทางธรรมแล้วมันจะเป็นประโยชน์กว่า

การเกิดและการตายมันเป็นสิ่งที่ห้ามไม่ได้ ทุกคนต้องตายทั้งนั้น ทุกคนเกิดมาใช้กรรมเก่า เหมือนกับเกิดมาใช้กรรมเก่าเพราะอะไร? เพราะกิเลสนี้เป็นของเก่า กิเลสเป็นของเก่า อยู่กับหัวใจ หัวใจต้องพาเกิดพาตายตามธรรมชาติของมัน แต่พาเกิดพาตายโดยที่ว่าเกิดมาเป็นมนุษย์นี้มีความสมบูรณ์มาก สมบูรณ์เพราะอะไร? เพราะมีโอกาส

แต่คนที่ไม่เกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เกิดเป็นต่างๆ เขาเกิดแล้วเขาทุกข์ยากของเขานะ เขาทุกข์ยากเพราะเขาไม่มีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ แต่เรามีโอกาสเกิดเป็นมนุษย์ เรามีโอกาส แล้วโอกาสของเราได้พบพระพุทธศาสนาด้วย แต่ใจมันจะเชื่อหรือไม่เชื่อ?

ส่วนที่ใจเชื่อมันก็ได้การขวนขวายไง เห็นไหม เป้าหมายของชีวิต ชีวิตเหมือนกัน เราเกิดมามี ๒๔ ชั่วโมงเหมือนกัน แต่คนหนึ่งเพลินไปไม่สนใจ ทั้งๆ ที่มีอยู่ไง

เราเกิดในประเทศอันสมควร สมควรมากนะพระพุทธศาสนา เกิดในแดนของพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนามีการสอนให้ทาน ให้ศีล มีการให้ทาน มีศีล มีภาวนา ถ้ามีการให้ทานขึ้นมา ให้ทานเพื่อหัวใจ หัวใจได้ทำบุญกุศล

โลกเกิดมาเพราะใช้กรรมเก่า กรรมเก่านะ เกิดมาแล้วจะสร้างสมกรรมใหม่ไหม? ถ้าไม่มีกรรมใหม่ไป ตายไปด้วยความว้าเหว่ ตายไปด้วยความทุกข์ความอาลัยอาวรณ์นะ ไม่รู้ว่าจะไปไหน?

แต่คนตายพร้อมที่จะไป เห็นไหม ทุกคนถ้ามีบุญกุศลแล้วตายก็พร้อมที่จะตายเพราะว่าอะไร? เพราะคนเรานี่มีที่พึ่ง เหมือนเรามีสมบัติพัสถาน เราจะมีความสุขมีที่พึ่งที่อาศัยของเราไปได้

ที่พึ่งอาศัย เห็นไหม อาศัยชั่วคราว สิ่งนี้อาศัยกันชั่วคราว ทรัพย์สมบัติอาศัยชั่วคราว บุญกุศลก็อาศัยชั่วคราวเพราะมันเป็นสพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา แต่สิ่งที่อาศัยไปกับหัวใจตลอดไป มันเป็นเนื้อเดียวกับใจ กิเลสอยู่กับใจ กิเลสแนบอยู่กับใจ ถ้าลองชำระกิเลสได้ เห็นไหม กิเลสหลุดออกไปจากใจ ใจนี้เป็นธรรมล้วนๆ

สิ่งนี้เป็นที่อาศัยได้จริงเพราะอะไร? เพราะเราเกิดมาใช้กรรมเก่า กรรมคือการกระทำ แต่กรรมดีของเรา เราสร้างสมขึ้นมา การประพฤติปฏิบัตินี่เป็นกรรมดี ปฏิบัติบูชา การทำบุญกุศลสุดท้ายแล้วก็ไม่พ้นการปฏิบัติธรรม ทำบุญกุศลที่ไหนก็แล้วแต่ สุดท้ายแล้วคือการปฏิบัติธรรม ต้องปฏิบัติบูชา ปฏิบัติบูชาเพื่อเอากิเลสออกจากใจ

ถ้ากิเลสออกจากใจแล้ว ใจนี้เป็นธรรมล้วนๆ นั่นน่ะเป็นที่พึ่งได้จริง ไม่เป็นสพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา เอโก ธัมโม ธรรมอันเอก ธรรมนี้เป็นสิ่งที่ว่าเป็นเนื้อเดียวกับใจ ไม่ใช่ของคู่ เป็นธรรมเฉยๆ เลย เป็นเนื้อเดียวกับใจ

ใจดวงนี้ถึงว่าไม่มีกรรมเก่า เห็นไหม ใช้กรรมดี ละเว้นกรรมดี เอากรรมดีทำลายกรรมชั่ว สุดท้ายแล้วก็ต้องทำลายกรรมดีอันนั้นด้วย กรรมดีนั้นถึงต้องพิสูจน์ไป

ถ้าเราติดกรรมดีอันนั้น เห็นไหม ถึงที่สุดแล้วปล่อยวางธาตุขันธ์ทั้งหมดเลย ปล่อยวางหมดเลย แต่ไม่ปล่อยวางตัวหัวใจอันนั้นก็ไม่ถึงที่สุด ต้องไปสุกเอาข้างหน้า ต้องเป็นอนาคามีแล้วไปสุกเอาข้างหน้า รอแต่วันจะสุก จิตนี้สุกไปแล้วพ้นออกไป เห็นไหม รอไป สุดท้ายแล้วข้ามพ้นทั้งความชั่วด้วย อาศัยความดีข้ามพ้น อะไรไปข้ามพ้น? ต้องอาศัยความดี

การปฏิบัติบูชา กิจการงานต่างๆ เป็นการที่ว่าแสนทุกข์แสนยากนะ เป็นการเหนื่อยยากมากการทำงาน ต้องใช้พลังงานในการประพฤติปฏิบัติ การปฏิบัติธรรมนะใช้หัวใจ ใช้การพิจารณาของใจ ใจมันออกไปเกาะเกี่ยวสิ่งใด เอาสิ่งนั้นเข้ามาย้อนกลับมาชำระมัน ทำลายมันขึ้นมาให้ได้

ถึงว่าเอาชนะตนเองนี้แสนยาก การต่อสู้กัน การทำลายกัน การจ้างวานกัน มีเงินมีทองจ้างวานฆ่ากันก็ได้ แต่จ้างวานฆ่ากิเลสไม่ได้ กิเลสมีเงินทองมหาศาลขนาดไหนฆ่าก็ไม่ได้ ซื้อก็ไม่ได้ ปรารถนาก็ไม่ได้ ยกเว้นไว้แต่ปรารถนาเป็นเป้าหมาย เป็นอธิษฐานบารมี แล้วเราพยายามประพฤติปฏิบัติเข้าไป เป้าหมายเราสร้างขึ้นมา จิตใจสูงขึ้นจากตรงนี้

คนเราตั้งเป้าหมายชีวิตไว้อะไร? เป้าหมายชีวิตประสบความสำเร็จทางโลก เขาก็ต้องดิ้นรนไปทางโลก ถึงจะประสบความสำเร็จ ถ้าเขาตั้งเป้าหมายไว้แล้วถ้าเขาไม่ทำไป มันก็ประสบความสำเร็จไปไม่ได้ เราตั้งเป้าหมายไว้ การประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อให้พ้นจากกิเลส ให้ใจนี่พ้นจากกิเลส ถ้าเราตั้งเป้าหมายแล้วเราต้องมีการประพฤติปฏิบัติ

การประพฤติปฏิบัติเป็นงานอันละเอียดอ่อน เห็นไหม งานของโลกเขาเป็นวัตถุที่ว่าจับต้องได้ แต่งานของใจเป็นนามธรรม สิ่งที่เป็นนามธรรม พยายามทำขึ้นมาเป็นนามธรรมจนใจนี้ตั้งสงบขึ้นมาเป็นสัมมาสมาธิ

แขกจรมา อารมณ์ต่างๆ นี้เป็นวัตถุอันหนึ่ง เป็นสิ่งที่กระทบกระเทือนใจอันหนึ่ง ถ้าเราจับสิ่งนี้ได้ เราวิปัสสนาได้ ถ้าเราจับสิ่งนี้ไม่ได้ งานมันไม่เกิดขึ้นมา สิ่งที่งานไม่เกิดขึ้นมา มันก็เวียนไป มันจับต้องอะไรไม่ได้ มีแต่เป้าหมาย มีแต่ความตั้งใจ ความตั้งใจงานไม่เกิดขึ้น ถ้างานไม่เกิดขึ้น วัตรปฏิบัติสำคัญตรงนี้ นี่ปฏิปทาเครื่องดำเนิน

ถ้ามีปฏิปทาเครื่องดำเนิน มันก็มีโอกาส ถ้าไม่มีปฏิปทาเครื่องดำเนิน เห็นไหม เวลาของโลกเป็นเวลาของโลก ๒๔ ชั่วโมง เวลาของธรรมก็ ๒๔ ชั่วโมงเหมือนกัน เวลาของใครก็ ๒๔ ชั่วโมงเหมือนกัน ๒๔ ชั่วโมงแต่ ๒๔ ชั่วโมงเพื่อใคร? เพื่อโลกก็เป็นเรื่องของโลก เพื่อธรรมก็เป็นเรื่องของธรรม

แต่ความที่ว่าจะสูง-ต่ำ เห็นไหม ความสูงขึ้นมาสูงส่งขนาดไหน นี่พรหมจรรย์ เวลาทิศทั้ง ๖ คารวะทิศ เห็นไหม ครูบาอาจารย์อยู่เหนือข้างหน้า อยู่บนศีรษะขึ้นมา เคารพทิศ เราบริหารอย่างไร? พ่อแม่อยู่ข้างหน้า ญาติบ่าวอยู่ทางเท้า เราจะบริหารทิศอย่างไร? บริหารเวลาอย่างไร? บริหารใจอย่างไร?

ธรรมมันเป็นหัวใจขึ้นมา ถ้าเราบริหารขึ้นมาเป็น เราจะจับต้องสิ่งนี้ได้ ทำความสงบของใจ ใจจะสงบเข้ามาเป็นสัมมาสมาธิ สิ่งที่เป็นสัมมาสมาธิ เห็นไหม เป็นรูปธรรมขึ้นมาแล้ว อ้อ...มันเป็นสัมมาสมาธิ คนจะร้องอ๋อขึ้นมานะ ถ้าจิตมันสงบขึ้นมา อ๋อ... มันเป็นอย่างนี้เอง มันจับต้องได้ มันจับต้องสิ่งนี้แล้วมันยกขึ้นวิปัสสนาได้

ถ้ายกขึ้นวิปัสสนาได้ ภาวนาเริ่มจะก้าวเดินไป ถ้าก้าวเดินไปนะ เป้าหมายจะสม เห็นไหม ผู้ที่ใฝ่ในธรรมก็ต้องปรารถนาธรรม ปฏิบัติให้สมกับธรรม “ผู้ใดปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม”

ทางโลกก็เป็นงานทางโลก ทุกข์ยากก็เรื่องของโลก แล้วทุกข์ยากไปอย่างนั้น แล้วไม่มีที่สิ้นสุด ต้องเวียนตายเวียนเกิดไปประสานั้น สร้างโลกต่อไปเรื่อยๆ แล้วก็พอใจกันไป แต่การสร้างปฏิบัติธรรมก็ทุกข์ยากเหมือนกัน แต่ทุกข์ยากแล้วมันดับได้ มันสิ้นได้ ทำใจให้สิ้นสุดการเกิดการตาย การสืบต่อไปข้างหน้า

นี่เติมอีกก็ไม่ได้ พร่องอีกก็ไม่ได้ มันทรงตัวของมันอยู่ขนาดนั้น สิ่งที่ทรงตัว แล้วสิ่งที่ทรงตัว อะไรทรงตัว?

ใจเราพร่องอยู่ตลอดเวลา เราถึงต้องคิด เห็นไหม ความคิดนั้นวิตกกังวล ความคิดต่างๆ มันพร่องอยู่ สิ่งที่พร่อง ยิ่งถ้าพร่องมากนะ เสียงมันยิ่งดังมาก เขย่าจะเสียงดังมาก ถ้ามันอิ่มเต็มขึ้นมา พร่องน้อย เสียงมันน้อย

นี่ความทุกข์มาก-ความทุกข์น้อยในใจไง ถ้าใจพร่องมากก็ทุกข์มาก ใจพร่องน้อยก็ทุกข์น้อย ถ้าใจอิ่มเต็มแล้วไม่มีความทุกข์เลย ไม่มีการสืบต่อ ไม่มีการก้าวเดินไป สิ่งที่พร่องมาก เวลาเราโยนไป ในภาชนะที่มีน้ำ เราขว้างไปนะ มันจะพาให้สิ่งนั้นก้าวไปไกล ความตกในความคิดก็เหมือนกัน จิตการเกิดการตาย เวียนตายเวียนเกิด มันตกใกล้ตกไกล ความตกของใจมันจะตกที่ไหน?

แต่ถ้ามันอิ่มเต็มแล้วมันตกที่ไหน มันไม่ตกไป มันอยู่ทรงตัวของมันตลอดไป มันนิ่งอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่นิ่งอยู่ เป้าหมายในการประพฤติปฏิบัติ ๒๔ ชั่วโมงเป็นสมบัติของใคร?

๒๔ ชั่วโมงของเรา ถ้าเป็นสมบัติของเรา เราดึงมาเป็นงานของเรา ๒๔ ชั่วโมงของโลกเหนื่อยทุกข์ยากมากนะ เป็นไปตามประสานั้น ถ้า ๒๔ ชั่วโมงของเรา ทางจงกรมมันก็ทุกข์ยากของเรา ทางจงกรมนั่งสมาธิภาวนานี่บังคับตน แต่ ๒๔ ชั่วโมงของเรามันต้องมีความรื่นเริงในหัวใจ

ถ้าธรรมเกิดขึ้นในใจจะมีความรื่นเริง มีความพอใจ สิ่งที่พอใจ เห็นไหม ความพอใจของเราทำได้ ทำสะสมขึ้นมาๆ จากเด็กน้อยขึ้นมามันก็เป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาได้ มันทรงตัวขึ้นมาได้ สิ่งที่ทรงตัวขึ้นมาได้ ต้องทำความสงบของใจเข้ามาได้ ใจสงบเข้ามาได้ อิ่มเต็มๆ ไปเรื่อยนะ

ความสงบของใจมันอิ่มเต็มแต่อิ่มเต็มชั่วคราว สิ่งที่อิ่มเต็มชั่วคราวมันก็มีโอกาสได้ทำ เพราะมันอิ่มเต็มแล้ว มันอิ่มจากโลก มันไม่ยุ่งกับโลกเขา มันก็เป็นอิสระของมันเข้ามา แล้วความอิ่มเต็มอันนั้นยกขึ้นวิปัสสนา เห็นไหม เพราะมันอิ่มเต็มแล้วมันถึงทำงานของมันได้ ถ้าไม่อิ่มเต็มนะ มันทำงานไปมันเป็นโลกียะไปตลอด

ถ้าทำงานของมันเป็นโลกุตตระ ถ้าทำไม่ได้ เห็นไหม จะเป็นสัญญาให้เป็นสัญญาไปก่อน จะเป็นสัญญาช่วงหนึ่ง มันต้องเป็นนะ วิปัสสนากรรมฐานกับสมถกรรมฐานเป็นความจำเป็นตลอดตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงที่สุด ต้องอาศัยความสงบของใจ

สัญญาก็เหมือนกัน เริ่มต้นจากการจุดให้มันติด ประกายติดขึ้นมาแล้วให้มันเผาไหม้กิเลส มันก็ต้องใช้สัญญาเหมือนกัน สัญญาเพื่อความจำ แต่มีกิเลสขึ้นมา สัญญาเพื่อจุดประกายมันติด พอมันติดขึ้นมาแล้วมันเป็นขอบข่ายของปัญญา มันจะไม่เป็นสัญญาหรอก มันจะเป็นปัญญาไป เพราะคนทำงานเป็น

คนทำงานเป็น เห็นไหม แบงก์นี่เราจะซื้ออะไรก็ได้ แลกเปลี่ยนอะไรก็ได้ถ้าเราทำเป็น ถ้าทำไม่เป็น กระดาษก็คือกระดาษอย่างนั้น เป็นสภาวะแบบนั้น กระดาษก็คือแบงก์ แบงก์สมมุติ แบงก์ปลอมก็เป็นกระดาษ แบงก์จริงก็เป็นกระดาษ ทำอะไรไม่เป็น แต่ถ้าคนเป็นนะ แบงก์ปลอมก็เป็นแบงก์ปลอม ไม่ใช้มัน แบงก์จริงถึงรู้ว่าเป็นแบงก์จริง ถึงใช้เป็นแบงก์จริง นี่สัมมาอาชีวะเลี้ยงชีวิตชอบ

ถ้าเลี้ยงชีวิตชอบ ทำงานมันก็ชอบ มันก็เป็นความชอบของมันไป ความมันชอบมันยกขึ้นวิปัสสนาได้จนถึงที่สุด นี่ ๒๔ ชั่วโมงมันมีคุณค่าขนาดนั้น นั่งเฉยๆ นะ หลับตาเฉยๆ ๒๔ ชั่วโมงจะมีคุณค่ามากเลย กับ ๒๔ ชั่วโมงที่เราทำงาน เวลาเราน้อย เวลาเราน้อย เราจะพยายามขวนขวายไปให้เวลาของมัน

ไม่พอเวลา หมุนออกไปก็ไม่พอ ไม่มีวันพอหรอก ถ้าหยุดไม่ได้ หยุดไม่ได้พอไม่ได้ ถ้าหยุดได้จะพอได้ หยุดได้จะพอถึงใจของมัน ๒๔ ชั่วโมงมันก็เก้อๆ เขินๆ ใจนี้สุดส่วนนะ

นี่ถึงว่าเป็นผู้มีราตรีเดียว ไม่มีวันนี้ ไม่มีพรุ่งนี้ ไม่มีเมื่อวานนี้ สิ่งนี้ไม่มีสืบต่อ เห็นไหม มีวันเดียวๆ ตลอดไป ๒๔ ชั่วโมงไม่มีคุณค่าของมันเลย เก้อๆ เขินๆ เป็นสมมุติไป จิตนี้พ้นออกไปจากสิ่งนั้น แล้วจะเป็นความสุขของใจดวงนั้น เอวัง